วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551


บิ๊กแอส (BIG ASS) เริ่มจากการ ที่อภิชาติ พรมรักษา (หมู) และพูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) เป็นเพื่อนร่วม ชั้นเรียนสมัยมัธยมที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 และได้ร่วมกันตั้งวง ดนตรีขึ้นมาแต่ไม่ได้จริงจังนัก จน กระทั่งเรียนจบมัธยมก็ได้ แยกย้ายกันไป จากนั้นอ๊อฟ ก็ไปเรียนต่อที่วิทยาลัยก่อสร้างดุสิต จึงชักชวนเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด (แด๊กซ์) ซึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกันมาร่วมวง ด้วย ขณะนั้นหมูที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ ก็ชักชวนเอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น) เพื่อนร่วมวิทยาลัยมาด้วยอีกคน แต่ทั้งสี่ยังขาด มือกลอง จึงชวนขจรเดช พรมรักษา (กบ) น้องชายของหมูมาเสริมทีม ต่อมา เมื่อ เอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น)ลาออกจากวง ก็ได้ พงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (โอ๊ค) มือเบสคนใหม่เข้ามาแทน และกลายมาเป็น BIG ASS หลังจากคว้ารางวัลสีสันอวอร์ด สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ปี 2541 จากอัลบั้ม "NOT BAD" และหลังจากแอบไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางดนตรี ด้วยการช่วยทำงานเบื้องหลังให้เพื่อนๆ ศิลปินร่วมค่าย อีก 2 ปีต่อมา พวกเขากลับมาพร้อมอัลบั้มหมายเลข 2 "XL" ดนตรีขนาดใหญ่ที่โตพองด้วยเนื้อหาและซาวนด์ดนตรี จากความเป็นป๊อปร็อคของอัลบั้มแรกกลายมาเป็น ร็อคที่มีกลิ่น ฮาร์ดคอร์ เพลงเด่นๆอย่าง "ก่อนตาย" "เพื่อนชวนไปแอบดู" กับเพลงเนื้อหากวนๆ "ผู้ชายมือสอง" ที่แสดงคาแรคเตอร์ ของวงได้ชัดเจนหรือจะเป็นเพลงช้า ที่โดนใจอย่างเพลง "เธอเก็บฉันไว้ทำไม" "รักเขาให้เท่าฉัน" รวมทั้งยังได้เข้าชิง "เพลงร็อคยอดเยี่ยม" จากรางวัลสีสันอวอร์ด ในเพลง "ศักดิ์เอ๋ย" ปี 2543 อีกด้วยปี 2546 พวกเขากลับมาอีกครั้ง กับอัลบั้ม My World หลังจากห่างหายไปเกือบ 3 ปี เพื่อไปทำงานเพลงเบื้องหลัง ให้กับศิลปินในสังกัดมิวสิค บั๊กส์ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง อาทิ บอดี้สแลม, Free เป็นต้นงานเพลงชุด 3 ที่พวกเขาทั้งโปรดิวซ์และร่วมเขียนเนื้อเพลงเอง อัลบั้ม My World จึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า "ทุกคนต่างมีโลกเป็นของตัวเอง และไม่จำเป็นที่โลกของแต่ละคน จะต้องเหมือนกันเพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ คือโลกของพวกเรา ที่อยากให้ทุกคนได้รู้จัก"1 ปีให้หลัง พ.ศ. 2547 พวกเขาก็ย้ายบ้านจาก สังกัดมิวสิค บั๊กส์ ไปสู่บ้านใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่าง จีนี่ เร็คคอร์ดส ในเครือแกรมมี่ ที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ส่งผลให้พวกเขาออกอัลบั้มชุด "Seven" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่บ่งบอกถึงการเดินทางอันยาวนานบนเส้นทางดนตรีที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 7 และเพลงในอัลบั้มชุดนี้โด่งดังแทบทุกเพลงเรียกได้ว่าดังกันข้ามปีกันเลยทีเดียว ทั้งเพลงเร็วสนุกๆ มันๆ ในแนวของ BIG ASS เช่น "ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก" ,"เล่นของสูง" หรือเพลงช้ากินใจอย่าง "คนไม่เอาถ่าน" ,"เกิดมาแค่รักกัน" ,"ดีแต่ปาก" เรียกได้ว่ากลับมาทั้งทีก็ยังคงคุณภาพไว้เต็มเปี่ยมเช่นเดิมปลายปี 2548 BIG ASS มีผลงานเพลงพิเศษ ในอัลบั้ม "วันฟ้าใหม่" โปรเจ็คพิเศษต้อนรับปีใหม่ โดยได้ร่วมงานกับวงร็อครุ่นน้องอย่าง "บอดี้แสลม" ในเพลง "เรา" ซึ่งเป็นเพลงพิเศษที่ร้องร่วมกับ BODYSLAM ในคอนเสิร์ต BIG BODY และหลังจากนั้น 22 เมษายน 2549 BIG ASS ก็ได้มีคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง คือ M-150 สุดชีวิตคนไทย ร่วมกับ BODYSLAM POTATO เสก LOSO และ ลานนา คัมมินส์และล่าสุดหลังจากที่ห่างหายไปนานกว่าเกือบ 2 ปี และต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย ในที่สุดพวกเขาก็ผ่านมันมาได้ พวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานอัลบั้มใหม่เป็นที่เรียบร้อย ในเดือนพฤศจิกายน 2549 ภายใต้ชื่ออัลบั้ม BEGINS เปิดตัวด้วยเพลงร็อกหนักแน่นอย่าง "ปลุกใจเสือป่า" และมีเพลงอื่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น "ข้าน้อยสมควรตาย" "คนหลงทาง" หรือเพลงช้าที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักอย่างเพลง "พรหมลิขิต" ซึ่งขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ทั่วประเทศ 17 มีนาคม 2550 BIG ASS ได้เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ ชื่อ "BIG ASS เปิด พรหมลิขิต" โดยดารารับเชิญ เช่น Bodyslam, บอย Peacemaker, Retrospect เป็นต้นสมาชิก1.เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด (แด๊กซ์) ร้องนำ 2.พูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) กีตาร์ 3.อภิชาติ พรมรักษา (หมู) กีตาร์ 4.พงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (โอ๊ค) เบส 5.ขจรเดช พรมรักษา (กบ) กลอง อดีตสมาชิก เอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น) เบส มีผลงานร่วมกับวงสองชุด คือชุดแรก Not Bad และ ชุด XL

บิ๊กแอส (BIG ASS) เริ่มจากการ ที่อภิชาติ พรมรักษา (หมู) และพูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) เป็นเพื่อนร่วม ชั้นเรียนสมัยมัธยมที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 และได้ร่วมกันตั้งวง ดนตรีขึ้นมาแต่ไม่ได้จริงจังนัก จน กระทั่งเรียนจบมัธยมก็ได้ แยกย้ายกันไป จากนั้นอ๊อฟ ก็ไปเรียนต่อที่วิทยาลัยก่อสร้างดุสิต จึงชักชวนเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด (แด๊กซ์) ซึ่งเรียนอยู่ที่เดียวกันมาร่วมวง ด้วย ขณะนั้นหมูที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ ก็ชักชวนเอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น) เพื่อนร่วมวิทยาลัยมาด้วยอีกคน แต่ทั้งสี่ยังขาด มือกลอง จึงชวนขจรเดช พรมรักษา (กบ) น้องชายของหมูมาเสริมทีม ต่อมา เมื่อ เอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น)ลาออกจากวง ก็ได้ พงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (โอ๊ค) มือเบสคนใหม่เข้ามาแทน และกลายมาเป็น BIG ASS หลังจากคว้ารางวัลสีสันอวอร์ด สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ปี 2541 จากอัลบั้ม "NOT BAD" และหลังจากแอบไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางดนตรี ด้วยการช่วยทำงานเบื้องหลังให้เพื่อนๆ ศิลปินร่วมค่าย อีก 2 ปีต่อมา พวกเขากลับมาพร้อมอัลบั้มหมายเลข 2 "XL" ดนตรีขนาดใหญ่ที่โตพองด้วยเนื้อหาและซาวนด์ดนตรี จากความเป็นป๊อปร็อคของอัลบั้มแรกกลายมาเป็น ร็อคที่มีกลิ่น ฮาร์ดคอร์ เพลงเด่นๆอย่าง "ก่อนตาย" "เพื่อนชวนไปแอบดู" กับเพลงเนื้อหากวนๆ "ผู้ชายมือสอง" ที่แสดงคาแรคเตอร์ ของวงได้ชัดเจนหรือจะเป็นเพลงช้า ที่โดนใจอย่างเพลง "เธอเก็บฉันไว้ทำไม" "รักเขาให้เท่าฉัน" รวมทั้งยังได้เข้าชิง "เพลงร็อคยอดเยี่ยม" จากรางวัลสีสันอวอร์ด ในเพลง "ศักดิ์เอ๋ย" ปี 2543 อีกด้วยปี 2546 พวกเขากลับมาอีกครั้ง กับอัลบั้ม My World หลังจากห่างหายไปเกือบ 3 ปี เพื่อไปทำงานเพลงเบื้องหลัง ให้กับศิลปินในสังกัดมิวสิค บั๊กส์ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง อาทิ บอดี้สแลม, Free เป็นต้นงานเพลงชุด 3 ที่พวกเขาทั้งโปรดิวซ์และร่วมเขียนเนื้อเพลงเอง อัลบั้ม My World จึงถือกำเนิดขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่า "ทุกคนต่างมีโลกเป็นของตัวเอง และไม่จำเป็นที่โลกของแต่ละคน จะต้องเหมือนกันเพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ คือโลกของพวกเรา ที่อยากให้ทุกคนได้รู้จัก"1 ปีให้หลัง พ.ศ. 2547 พวกเขาก็ย้ายบ้านจาก สังกัดมิวสิค บั๊กส์ ไปสู่บ้านใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่าง จีนี่ เร็คคอร์ดส ในเครือแกรมมี่ ที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ส่งผลให้พวกเขาออกอัลบั้มชุด "Seven" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่บ่งบอกถึงการเดินทางอันยาวนานบนเส้นทางดนตรีที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 7 และเพลงในอัลบั้มชุดนี้โด่งดังแทบทุกเพลงเรียกได้ว่าดังกันข้ามปีกันเลยทีเดียว ทั้งเพลงเร็วสนุกๆ มันๆ ในแนวของ BIG ASS เช่น "ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก" ,"เล่นของสูง" หรือเพลงช้ากินใจอย่าง "คนไม่เอาถ่าน" ,"เกิดมาแค่รักกัน" ,"ดีแต่ปาก" เรียกได้ว่ากลับมาทั้งทีก็ยังคงคุณภาพไว้เต็มเปี่ยมเช่นเดิมปลายปี 2548 BIG ASS มีผลงานเพลงพิเศษ ในอัลบั้ม "วันฟ้าใหม่" โปรเจ็คพิเศษต้อนรับปีใหม่ โดยได้ร่วมงานกับวงร็อครุ่นน้องอย่าง "บอดี้แสลม" ในเพลง "เรา" ซึ่งเป็นเพลงพิเศษที่ร้องร่วมกับ BODYSLAM ในคอนเสิร์ต BIG BODY และหลังจากนั้น 22 เมษายน 2549 BIG ASS ก็ได้มีคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้ง คือ M-150 สุดชีวิตคนไทย ร่วมกับ BODYSLAM POTATO เสก LOSO และ ลานนา คัมมินส์และล่าสุดหลังจากที่ห่างหายไปนานกว่าเกือบ 2 ปี และต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย ในที่สุดพวกเขาก็ผ่านมันมาได้ พวกเขาได้สร้างสรรค์ผลงานอัลบั้มใหม่เป็นที่เรียบร้อย ในเดือนพฤศจิกายน 2549 ภายใต้ชื่ออัลบั้ม BEGINS เปิดตัวด้วยเพลงร็อกหนักแน่นอย่าง "ปลุกใจเสือป่า" และมีเพลงอื่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น "ข้าน้อยสมควรตาย" "คนหลงทาง" หรือเพลงช้าที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักอย่างเพลง "พรหมลิขิต" ซึ่งขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ทั่วประเทศ 17 มีนาคม 2550 BIG ASS ได้เปิดคอนเสิร์ตใหญ่ ชื่อ "BIG ASS เปิด พรหมลิขิต" โดยดารารับเชิญ เช่น Bodyslam, บอย Peacemaker, Retrospect เป็นต้นสมาชิก1.เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด (แด๊กซ์) ร้องนำ 2.พูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) กีตาร์ 3.อภิชาติ พรมรักษา (หมู) กีตาร์ 4.พงศ์พันธ์ พลสิทธิ์ (โอ๊ค) เบส 5.ขจรเดช พรมรักษา (กบ) กลอง อดีตสมาชิก เอกรัตน์ รัตนปิณฑะ (ต้น) เบส มีผลงานร่วมกับวงสองชุด คือชุดแรก Not Bad และ ชุด XL

อัลบั้ม panaphobia ep. ในปี 2003 เป็นอัลบั้มแรกของวง sweet mullet ที่ได้เข้าสู่วงการเพลงใต้ดิน และทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่คนฟังเพลง underground อัลบั้มนี้ทางวงได้เขียนเพลงกันเอง ผลิตกันเอง และวางขายกันเองตามงานคอนเสิร์ตที่วงได้เดินทางไปเล่นตามที่ต่างๆ โดยมีสมาชิกคือ เต๋า (vocals), วีน (guitar), อั๋น (guitar), กล้วย (bass) และ หมู (drums) ในขณะนั้นเพลงของ sweet mullet ก็ได้เปิด ทางคลื่นวิทยุ 104.5 fat radio บ้างในช่วง bedroom studio ทำให้ชื่อของ sweet mullet เริ่มเป็นที่ รู้จักของคนฟังเพลงใต้ดิน
ในปีต่อมาทางวงได้มีโอกาสได้เซ็นสัญญากับสังกัด genie records ในเครือของ G”MM’ Grammy โดย การชักชวนของพี่โน่ (ดนัย ธงสินธุศักดิ์) ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ที่ค่าย genie records พี่โน่ ให้ทางวงลองส่ง แผ่นมาที่ค่ายดู หลังจากนั้นจึงได้รับการติดต่อกลับมา และทำให้มีโอกาสได้มาร่วมงานที่ genie records ในขณะเดียวกันวงได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกโดย กล้วย มือเบสของวงต้องกลับไปเล่นกับวงเก่าของเขา ทำให้ทางวงต้องหามือเบสใหม่ จึงได้ ตี่ มารับหน้าที่เล่นเบสแทน กล้วย ซึ่งความจริงแล้ว ตี่ ได้เคยเป็นสมาชิก ยุคก่อตั้งวงและเคยเป็นมือเบสคนแรกของ sweet mullet ในยุคก่อนออกอัลบั้ม panaphobia ep.
และภายในปีเดียวกันทางวงมีโอกาสได้ออกผลงานในอัลบั้ม showroom vol.1 กับสังกัด genie records ซึ่งในอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มรวมศิลปินหน้าใหม่ของ genie records โดยวง sweet mullet มีเพลง “ตอบ” เข้าไปรวมอยู่ในอัลบั้มนี้ และเพลง “ตอบ” ก็ได้เข้าไปติดอันดับ top 10 ในชาร์ตคลื่นวิทยุยอดนิยมต่างๆ จนกระทั่งในเวลาต่อมาเพลง “ตอบ” ได้ทำให้ทางวงได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ปี 2005 วง sweet mullet ได้รับเกียรติได้เล่นเป็นวงเปิดให้กับวงร็อกอันดับหนึ่งของประเทศไทยคือวง bodyslam ในงาน bodyslam believe concert ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดี และเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับวง
ในปัจจุบันขณะนี้วง sweet mullet กำลังขะมักเขม้นทำเพลงในอัลบั้มเต็มกันอย่างเต็มที่ และได้มีการเปลี่ยน แปลง สมาชิกกันอีกครั้ง เนื่องจาก วีน มือกีตาร์ของวงได้ลาออกเพราะต้องการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทำให้วงต้องหามือกีตาร์มาแทนคือ แป๊บ มารับตำแหน่งมือกีตาร์คนใหม่แทน วีน และไลน์อัพล่าสุดในปัจจุบัน เลยมาลงตัวที่ เต๋า (vocals), แป๊บ (guitar), อั๋น (guitar), ตี่ (bass) และ หมู (drums) Sweet Mullet are :ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล (เต๋า) - vocalsประณัฐ ธรรมโกสิทธิ์ (แป๊บ) - guitarนฤดม ตันทนานนท์ (อั๋น) - guitarพิสุทธิ์ โล่ห์สีทอง (ตี่) - bassวิทวัส ภักดิ์แจ่มใส (หมู) - drums


หลอมละลายเนื้อร้อง : ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล & Sweet Mullet ทำนอง / เรียบเรียง : Sweet Mullet & Danoสายตา ของเธอ... ทำให้ใจฉันละลาย ทำให้เพ้อไปมากมายห้ามใจ สักเท่าไร... ไม่อาจรั้งให้ข้างใน หยุดหวั่นไหวคิดไปไกล
เธอเข้ามา จุดไฟกลางหัวใจ ลุกลามไป หมดไม่เหลือหัวใจให้ใคร...อีกแล้ว
หลอมละลาย สลายหายไป หัวใจที่เคยเข้มแข็ง...มานานใจฉันอ่อนแรงเมื่อได้มีเธออยู่...ด้วยกัน
รู้สึก แปลกไป...เกิดอะไรขึ้นข้างใน มันหวั่นไหวขึ้นทันใดไม่เคยจะ เข้าใจ... ว่าทำไมต้องเป็นเธอ ทำให้ฉันหลงละเมอ
เธอร้อนแรง ดุจไฟเผาหัวใจ พร้อมมอดไหม้ ไปกับรัก(ของเธอ)...
หลอมละลาย สลายหายไป หัวใจที่เคยเข้มแข็ง...มานานใจฉันอ่อนแรงเมื่อได้มีเธออยู่…ด้วยกันหลอมละลาย สลายหายไป !!!!มอบหัวใจ ให้เธอแผดเผา !!!!

วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551


กอล์ฟ ไมค์ กับละครเรื่องแรกในละครเรื่อง อุบัติรักข้ามขอบฟ้าโดยมีดาราสวยจากสายลับจับบ้านเล็กและวัยรุ่นหน้าใสมิสอุทัยทิพย์

วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2551


RETROSPECT

Retrospect : Unleashed (อันลีชด์)ครั้งแรก ที่เราได้ทำความรู้จักกับเพลงร็อกดนตรีหนักหน่วง เนื้อหาและโมโลดี้บาดลึก แต่อ่อนโยน ที่มีชื่อว่า “ไม่มีเธอ” เพลงจากอัลบั้ม Showroom Vol.1 (project รวมวงอินดี้รุ่นใหม่จาก genie records )เจ้าของเพลงนั้น คือวงร็อกที่หน้าและชื่อไม่ใหม่นัก สำหรับคออินดี้ แต่อาจยังไม่คุ้นหูนัก(ในตอนนั้น) สำหรับคอร็อกหมู่มากและถ้าจะพูดว่า เพลง “ไม่มีเธอ” คือใบเบิกทาง ให้ชื่อขอRetrospect เป็นที่ “รู้จัก” “ชื่นชม” และ “กล่าวขวัญถึง” ในวงกว้างกับการเป็นวงร็อกอินดี้ที่มี “ฝีมือ” “ภาพลักษณ์” และ “เอกลักษณ์เฉพาะตัว”ที่หาตัวจับยาก ก็คงจะไม่เป็นการพูดเกินจริงแต่อย่างใดและจากความสำเร็จในครั้งนั้น หลายคน เกิดคำถามว่า เมื่อไหร่ เราจะได้รู้จัก และฟังเพลงของพวกเขาแบบเต็มรูปแบบเสียทีวันนี้ การรอคอย สิ้นสุดลงแล้ว เตรียมตัว สัมผัสงานร็อกที่หนักหน่วงแต่แฝงด้วยเมโลดี้ ที่อ่อนหวานของพวกเขาได้แล้ว Retrospect กับการปลดปล่อย สัญชาติญาณร็อกของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบ กับอัลบั้มเต็ม ครั้งแรก “Unleashed”